แบบสร้างของคำสนธิ
แบบสร้างของคำสนธิที่ใช้ในภาษาไทย
๑.สระสนธิ
การสนธิสระทำได้ ๓ วิธี คือ
๑.๑ ตัดสระพยางค์ท้าย แล้วใช้สระพยางค์หน้าของคำหลังแทน เช่น
๑.สระสนธิ
การสนธิสระทำได้ ๓ วิธี คือ
๑.๑ ตัดสระพยางค์ท้าย แล้วใช้สระพยางค์หน้าของคำหลังแทน เช่น
มหา
|
สนธิกับ
|
อรรณพ
|
เป็น
|
มหรรณพ
|
นร
|
สนธิกับ
|
อินทร์
|
เป็น
|
นรินทร์
|
ปรมะ
|
สนธิกับ
|
อินทร์
|
เป็น
|
ปรมินทร์
|
รัตนะ
|
สนธิกับ
|
อาภรณ์
|
เป็น
|
รัตนาภรณ์
|
วชิร
|
สนธิกับ
|
อาวุธ
|
เป็น
|
วชิราวุธ
|
ฤทธิ
|
สนธิกับ
|
อานุภาพ
|
เป็น
|
ฤทธานุภาพ
|
มกร
|
สนธิกับ
|
อาคม
|
เป็น
|
มกราคม
|
๑.๒ ตัดสระพยางค์ท้ายของคำหน้า แล้วใช้สระพยางค์หน้าของคำหลังแต่เปลี่ยนรูป อะ เป็น อา อิ เป็น เอ อุ เป็น อู หรือ โอ ตัวอย่างเช่น
เปลี่ยนรูป อะ เป็นอา
เปลี่ยนรูป อะ เป็นอา
เทศ
|
สนธิกับ
|
อภิบาล
|
เป็น
|
เทศาภิบาล
|
ราช
|
สนธิกับ
|
อธิราช
|
เป็น
|
ราชาธิราช
|
ประชา
|
สนธิกับ
|
อธิปไตย
|
เป็น
|
ประชาธิปไตย
|
จุฬา
|
สนธิกับ
|
อลงกรณ์
|
เป็น
|
จุฬาลงกรณ์
|
เปลี่ยนรูป อิ เป็น เอ
นร
|
สนธิกับ
|
อิศวร
|
เป็น
|
นเรศวร
|
ปรม
|
สนธิกับ
|
อินทร์
|
เป็น
|
ปรเมนทร์
|
คช
|
สนธิกับ
|
อินทร์
|
เป็น
|
คเชนทร์
|
เปลี่ยนรูป อุ เป็น อู หรือ โอ
ราช
|
สนธิกับ
|
อุปถัมภ์
|
เป็น
|
ราชูปถัมภ์
|
สาธารณะ
|
สนธิกับ
|
อุปโภค
|
เป็น
|
สาธารณูปโภค
|
วิเทศ
|
สนธิกับ
|
อุบาย
|
เป็น
|
วิเทโศบาย
|
สุข
|
สนธิกับ
|
อุทัย
|
เป็น
|
สุโขทัย
|
นย
|
สนธิกับ
|
อุบาย
|
เป็น
|
นโยบาย
|
๑.๓ เปลี่ยนสระพยางค์ท้ายของคำหน้า อิ อี เป็น ย อุ อู เป็น ว แล้วใช้สระ พยางค์หน้าของคำหลังแทน เช่น
เปลี่ยน อิ อี เป็น ย
เปลี่ยน อิ อี เป็น ย
มติ
|
สนธิกับ
|
อธิบาย
|
เป็น
|
มัตยาธิบาย
|
รังสี
|
สนธิกับ
|
โอภาส
|
เป็น
|
รังสโยภาส, รังสิโยภาส
|
สามัคคี
|
สนธิกับ
|
อาจารย์
|
เป็น
|
สามัคยาจารย์
|
เปลี่ยน อุ อู เป็น ว
สินธุ
|
สนธิกับ
|
อานนท์
|
เป็น
|
สินธวานนท์
|
จักษุ
|
สนธิกับ
|
อาพาธ
|
เป็น
|
จักษวาพาธ
|
ธนู
|
สนธิกับ
|
อาคม
|
เป็น
|
ธันวาคม
|
๒.พยัญชนะสนธิ
พยัญชนะสนธิในภาษาไทยมีน้อย คือเมื่อนำคำ ๒ คำมาสนธิกัน ถ้าหากว่าพยัญชนะ ตัวสุดท้าย ของคำหน้ากับพยัญชนะตัวหน้าของคำหลังเหมือนกัน ให้ตัดพยัญชนะที่เหมือนกัน ออกเสียตัวหนึ่ง เช่น
พยัญชนะสนธิในภาษาไทยมีน้อย คือเมื่อนำคำ ๒ คำมาสนธิกัน ถ้าหากว่าพยัญชนะ ตัวสุดท้าย ของคำหน้ากับพยัญชนะตัวหน้าของคำหลังเหมือนกัน ให้ตัดพยัญชนะที่เหมือนกัน ออกเสียตัวหนึ่ง เช่น
เทพ
|
สนธิกับ
|
พนม
|
เป็น
|
เทพนม
|
นิวาส
|
สนธิกับ
|
สถาน
|
เป็น
|
นิวาสถาน
|
๓.นิคหิตสนธิ
นิคหิตสนธิในภาษาไทย ใช้วิธีเดียวกับวิธีสนธิในภาษาบาลีและสันสกฤต คือ ให้สังเกตพยัญชนะตัวแรกของคำหลังว่าอยู่ในวรรคใด แล้วแปลงนิคหิตเป็นพยัญชนะตัวสุดท้ายของวรรคนั้น เช่น
นิคหิตสนธิในภาษาไทย ใช้วิธีเดียวกับวิธีสนธิในภาษาบาลีและสันสกฤต คือ ให้สังเกตพยัญชนะตัวแรกของคำหลังว่าอยู่ในวรรคใด แล้วแปลงนิคหิตเป็นพยัญชนะตัวสุดท้ายของวรรคนั้น เช่น
สํ
|
สนธิกับ
|
กรานต
|
เป็น
|
สงกรานต์
|
(ก เป็นพยัญชนะวรรค กะ พยัญชนะตัวสุดท้ายของวรรคกะ คือ ง)
| ||||
สํ
|
สนธิกับ
|
คม
|
เป็น
|
สังคม
|
(ค เป็นพยัญชนะวรรค กะ พยัญชนะตัวสุดท้ายของวรรคกะ คือ ง)
| ||||
สํ
|
สนธิกับ
|
ฐาน
|
เป็น
|
สัณฐาน
|
(ฐ เป็นพยัญชนะวรรค ตะ พยัญชนะตัวสุดท้ายของวรรคกะ คือ ณ)
| ||||
สํ
|
สนธิกับ
|
ปทาน
|
เป็น
|
สัมปทาน
|
(ป เป็นพยัญชนะวรรค ปะ พยัญชนะตัวสุดท้ายของวรรคกะ คือ ม)
|
ถ้าพยัญชนะตัวแรกของคำหลังเป็นเศษวรรค ให้คงนิคหิต (_ํ ) ตามรูปเดิม อ่านออกเสียง อัง หรือ อัน เช่น
สํ
|
สนธิกับ
|
วร
|
เป็น
|
สังวร
|
สํ
|
สนธิกับ
|
หรณ์
|
เป็น
|
สังหรณ์
|
สํ
|
สนธิกับ
|
โยค
|
เป็น
|
สังโยค
|
ถ้า สํ สนธิกับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ จะเปลี่ยนนิคหิตเป็น ม เสมอ เช่น
สํ
|
สนธิกับ
|
อิทธิ
|
เป็น
|
สมิทธิ
|
สํ
|
สนธิกับ
|
อาคม
|
เป็น
|
สมาคม
|
สํ
|
สนธิกับ
|
อาส
|
เป็น
|
สมาส
|
สํ
|
สนธิกับ
|
อุทัย
|
เป็น
|
สมุทัย
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น